เลือกชุดจั๊มสูทผ้าไหมอย่างไรให้เหมาะกับรูปร่าง
ใครว่าชุดจั๊มสูทใส่ยาก? โดยเฉพาะ “จั๊มสูทผ้าไหม” ที่หลายคนอาจมองว่าเหมาะกับโอกาสพิเศษเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ แล้ว ถ้าเลือกทรงและผ้าที่เหมาะกับรูปร่าง เราสามารถใส่จั๊มสูทผ้าไหมได้ทั้งในวันทำงาน ออกเดต หรือไปงานเลี้ยงเลยล่ะ วันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ทริคง่ายๆ ในการเลือกจั๊มสูทผ้าไหมให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเอง” รับรองว่าอ่านจบแล้ว ใครๆ ก็ใส่จั๊มสูทได้สวยมั่นใจแน่นอน
ก่อนเลือก ต้องรู้จักผ้าไหมก่อน

ก่อนจะไปถึงเรื่องทรง เราขอพูดถึง “ผ้าไหม” สักนิด เพราะเนื้อผ้ามีผลต่อการตกของชุดและภาพรวมของรูปร่างเรามากเลยนะ
- ผ้าไหมแท้ทอมือ จะมีเท็กซ์เจอร์เล็กน้อย ดูมีมิติ สวยแบบธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ชอบลุคเรียบหรูแบบไม่ต้องพยายาม
- ผ้าไหมประยุกต์ เช่น ไหมผสมคอตตอน หรือไหมผสมโพลีฯ จะนุ่ม ใส่สบาย ตกทรงง่าย ไม่แนบเนื้อจนเกินไป
- ผ้าไหมออร์แกนดี้ หรือไหมเนื้อบาง ให้ลุคพริ้วๆ เบาๆ เหมาะกับชุดที่ต้องการความหวาน ความนุ่มนวล
รู้จักเนื้อผ้าแล้ว เราไปดูเคล็ดลับการเลือกชุดจั๊มสูทให้เหมาะกับรูปร่างกันเลย
สาวรูปร่างทรงแอปเปิ้ล (Apple Shape)
ลักษณะ: ช่วงบนอาจจะดูมีน้ำมีนวลมากกว่าช่วงล่าง มีหน้าอกและหน้าท้องเด่น ขาเล็ก
แนะนำ:
เลือกจั๊มสูทที่มี “ดีเทลช่วงเอว” อย่างเช่น คาดเข็มขัด หรือมีการเข้ารูปช่วงเอวเบาๆ เพื่อสร้างเส้นแบ่งให้เห็นทรวดทรงได้ชัดเจนมากขึ้น คอวีหรือคอปาดช่วยเบรกความแน่นของช่วงบนได้ดี ผ้าไหมเนื้อด้านหรือผ้าที่ไม่เงาจนเกินไปจะช่วยให้ช่วงบนไม่ดูแน่นจนเกินไป
เลี่ยง: จั๊มสูทผ้าเงามากๆ ไม่มีเส้นแบ่งเอวเลย เพราะจะยิ่งเน้นหน้าท้องและช่วงตัวบน
สาวรูปร่างทรงลูกแพร์ (Pear Shape)
ลักษณะ: ช่วงสะโพกและต้นขาเด่นกว่าช่วงบน หน้าอกเล็ก ไหล่แคบ
แนะนำ:
เลือกจั๊มสูทที่เน้นช่วงบน เช่น แขนพอง คอปาด หรือมีลวดลายเฉพาะด้านบน เพื่อดึงสายตาขึ้น ช่วงกางเกงควรเลือกทรงขากว้าง (wide leg) หรือขาตรง (straight leg) ที่ช่วยอำพรางสะโพกได้ดี เนื้อผ้าไหมควรเลือกแบบที่ไม่บางจนแนบเนื้อ
เลี่ยง: จั๊มสูทที่รัดช่วงสะโพก หรือมีลายเด่นเฉพาะด้านล่าง
สาวรูปร่างทรงนาฬิกาทราย (Hourglass Shape)
ลักษณะ: มีเอวชัด สะโพกและไหล่ได้สัดส่วน
แนะนำ:
สาวหุ่นนี้ถือว่าโชคดี ใส่จั๊มสูทได้แทบทุกทรง! แต่ถ้าอยากเน้นให้ดูปังสุด เลือกจั๊มสูทที่เข้ารูปช่วงเอว และใช้ผ้าไหมที่มีน้ำหนักกลางๆ เพื่อให้ชุดตกทิ้งตัวสวย เช่น ไหมผสม หรือไหมแท้แบบเงาเล็กน้อย
เลี่ยง: ทรงโอเวอร์ไซส์เกินไป เพราะจะกลบรูปร่างที่มีสัดส่วนชัดเจน
สาวรูปร่างทรงกระบอก (Rectangle Shape)
ลักษณะ: ไม่มีส่วนเว้าโค้งชัดเจน ไหล่ เอว สะโพก อยู่ในแนวเดียวกัน
แนะนำ:
ใช้จั๊มสูทสร้าง “เคิร์ฟหลอก” เช่น เลือกทรงที่มีการจีบช่วงเอว หรือทรงที่มีคัตติ้งพอดีตัวช่วงบนและกางเกงขาบานเล็กน้อย ผ้าไหมที่มีเท็กซ์เจอร์เล็กๆ หรือมีลวดลายช่วยให้ดูมีมิติขึ้น
เลี่ยง: จั๊มสูททรงตรงๆ เรียบๆ ไม่มีลูกเล่น เพราะจะยิ่งเน้นรูปร่างตรงๆ แบบเดิม
สาวรูปร่างมินิ (Petite)
ลักษณะ: ตัวเล็ก ส่วนสูงไม่มาก
แนะนำ:
จั๊มสูทขาทรงกระบอก หรือขาลอย (cropped) จะช่วยให้ดูสูงขึ้น เลือกแบบที่เอวสูงหรือมีคาดเอวเพื่อแบ่งสัดส่วนช่วงลำตัวกับขา ผ้าไหมเนื้อบางหรือกลางๆ จะไม่หนักจนทำให้ดูเตี้ย คอวีหรือแขนกุดก็ช่วยให้ช่วงตัวดูยาวขึ้นด้วย
เลี่ยง: จั๊มสูททรงโอเวอร์ไซส์หรือผ้าไหมเนื้อหนาหนัก เพราะจะกลบร่างเล็กจนดูตัน
ทริคแต่งจั๊มสูทให้ดูสวยยิ่งขึ้น
นอกจากเลือกให้เหมาะกับรูปร่างแล้ว ยังมีทริคเสริมที่จะช่วยให้การใส่จั๊มสูทผ้าไหมดูดีขึ้นไปอีก
- ใส่กับรองเท้าส้นสูงหัวแหลม ช่วยยืดเรียวขา โดยเฉพาะถ้าเป็นจั๊มสูทขายาว
- เลือกเครื่องประดับให้น้อยแต่น่าจดจำ เพราะผ้าไหมมีความหรูอยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งเยอะ
- ถ้าเขินผ้าไหมเงาๆ ลองเริ่มจากจั๊มสูทไหมที่เป็นสีเข้ม เช่น กรมท่า เทา หรือเขียวเข้ม
- อย่าลืมความยาวของเป้าและช่วงตัว ถ้าซื้อแบบพร้อมใส่ต้องลองให้แน่ใจว่าไม่ดึง ไม่รั้ง เพื่อความสบาย
จั๊มสูทผ้าไหมไม่ได้ใส่ยากอย่างที่คิด แค่เรารู้จักรูปร่างของตัวเอง แล้วเลือกแบบที่ส่งเสริมจุดเด่นและอำพรางจุดที่ไม่มั่นใจ เท่านี้ก็สามารถใส่ชุดจั๊มสูทได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะไปงานทางการ ไปออกเดต หรือใส่ในวันสบายๆ จั๊มสูทผ้าไหมก็พร้อมเปลี่ยนลุคของคุณให้ดูดีขึ้นได้ทันที
อย่าลืมว่า “ความมั่นใจ” คือเครื่องประดับที่ดีที่สุด ใส่อะไรก็สวยถ้าเราใส่แล้วรู้สึกดีกับตัวเอง
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าไหม ได้ที่นี่ ชุดผ้าไหมแฟชั่น







