5 ทริค เลือกสีเดรสผ้าไหมให้ขับผิว ใส่แล้วไม่หมอง

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ลุคของเราดูดีได้ในทันทีโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไรเยอะเลยก็คือ “การเลือกสีเสื้อผ้าให้เหมาะกับสีผิว” โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเลือกชุดที่มีเนื้อผ้าพิเศษอย่าง “ผ้าไหม” ที่มีประกายแวววาวในตัวและมักจะใช้ในโอกาสสำคัญ เช่น งานแต่ง งานเลี้ยง หรืองานมงคลต่างๆ ถ้าเลือกสีไม่ดี อาจทำให้ผิวดูหมองหรือซีดได้อย่างน่าเสียดาย

วันนี้เราขอพาทุกคนมารู้จัก 5 ทริคง่ายๆ ในการเลือกสีเดรสผ้าไหมให้ขับผิว ใส่แล้วดูสวยสว่างแบบไม่พยายาม เหมาะกับทุกคนที่อยากใส่ผ้าไหมให้ดูมีรสนิยมและเสริมลุคให้โดดเด่นค่ะ

1. รู้จัก “โทนสีผิว” ของตัวเองก่อน

การเลือกสีที่เหมาะกับผิว ต้องเริ่มจากการรู้จัก “โทนผิว” ของเราก่อน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 โทนหลักๆ ได้แก่

  • ผิวโทนอุ่น (Warm tone) มีอันเดอร์โทนเหลืองหรือทอง เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกเขียว
  • ผิวโทนเย็น (Cool tone) มีอันเดอร์โทนชมพูหรือน้ำเงิน เส้นเลือดมักจะดูออกสีน้ำเงิน
  • ผิวโทนกลาง (Neutral tone) อยู่ระหว่างอุ่นและเย็น สามารถใส่ได้ทั้ง 2 โทน

สีที่แนะนำตามโทนผิว

  • โทนอุ่น → เหมาะกับสีทอง มัสตาร์ด เขียวมะกอก ส้มอิฐ น้ำตาลอ่อน
  • โทนเย็น → เหมาะกับสีชมพูบานเย็น ม่วงลาเวนเดอร์ น้ำเงินกรม ฟ้าเทา
  • โทนกลาง → ได้เปรียบตรงที่ใส่ได้ทั้งโทนอุ่นและเย็น แค่เลี่ยงสีที่ซีดเกินไปก็พอ

รู้โทนผิวแล้วจะช่วยให้เราเลือกสีผ้าไหมที่กลมกลืนกับผิว และขับให้หน้าดูผ่องขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งแอปแต่งรูปเลยค่ะ

2. ใช้ “สีตัดผิว” ให้ลุคสดใส

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า ถ้าผิวคล้ำควรใส่สีเข้ม ผิวขาวควรใส่สีสด แต่ความจริงแล้วการใช้ “สีตัดผิว” อย่างชาญฉลาด จะช่วยให้เราดูโดดเด่นขึ้นได้อีกระดับ โดยไม่ทำให้ผิวหมอง

  • ผิวคล้ำ → เลือกสีที่ให้ความคอนทราสต์กับผิว เช่น สีพาสเทลอย่างฟ้าคราม ชมพูอ่อน หรือเขียวหยก จะช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้น
  • ผิวขาวซีด → สีโทนอุ่นอย่างน้ำตาลคาราเมล แดงเบอร์กันดี หรือเขียวป่า จะช่วยเติมมิติให้ใบหน้าไม่ดูซีดเซียว
  • ผิวเหลืองธรรมชาติ → เลือกสีชมพูอมส้ม ชมพูกุหลาบ หรือเขียวอ่อน เพื่อเสริมความสดใส

การเลือกสีตัดผิวที่พอดี จะทำให้เราโดดเด่นขึ้นโดยไม่กลืนหายไปกับชุด และยังช่วยเสริมบุคลิกให้ดูมั่นใจมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

3. เลือกสีที่เสริมความเงางามของผ้าไหม

ผ้าไหมเป็นผ้าที่มีความมันวาวในตัวอยู่แล้ว ดังนั้นการเลือกสีจึงต้องคำนึงถึง “ประกายแสง” ที่กระทบเนื้อผ้าด้วย สีบางสีอาจดูสวยบนผ้าฝ้าย แต่พอมาอยู่บนผ้าไหมกลับทำให้ผิวดูหมองได้ง่าย

สีที่เสริมประกายผ้าไหมและเหมาะกับหลายสีผิว

  • สีชมพูกุหลาบหม่น
  • สีเขียวมรกต
  • สีฟ้าเที่ยงคืน
  • สีม่วงอมเทา
  • สีเบจประกายทอง

ควรหลีกเลี่ยงสีที่มีความเงาและสว่างเกินไป เช่น เงินเงา เหลืองนีออน หรือฟ้าจัด เพราะจะทำให้ดูแสบตาและดึงโทนผิวให้ดูซีดได้

4. เลือก “โทนธรรมชาติ” ที่เข้าได้กับทุกสถานการณ์

ถ้ายังไม่มั่นใจว่าสีไหนจะเหมาะกับตัวเอง ลองเริ่มจากสีโทนธรรมชาติ (Earth Tone) ซึ่งเป็นโทนที่อิงจากธรรมชาติ มักมีความนุ่มนวล ใส่ง่าย และเหมาะกับทุกสีผิว เช่น

  • เบจ ครีม น้ำตาลทราย
  • เขียวมะกอก น้ำตาลช็อกโกแลต
  • แดงอิฐ เทาอมน้ำตาล

โทนเหล่านี้นอกจากจะขับผิวได้ดี ยังให้ลุคที่ดูอบอุ่น สุภาพ เรียบร้อย และสามารถนำไปใส่ได้ในหลายโอกาส ตั้งแต่งานเช้าจนถึงงานเย็นเลยค่ะ

5. ทดลองแนบผ้ากับใบหน้าในแสงธรรมชาติ

เคล็ดลับสุดท้ายแต่สำคัญที่สุดคือ การลองสีจริงกับผิวของเรา โดยเฉพาะกับผ้าไหมที่มีประกาย ต้องลองภายใต้แสงธรรมชาติ เพราะแสงไฟในห้องอาจหลอกตาได้

ลองนำผ้า (หรือเสื้อผ้า) แนบไว้ที่ใบหน้าในช่วงกลางวัน จะช่วยให้เห็นชัดว่าสีไหนทำให้ผิวเราดูไบรท์ขึ้น หรือสีไหนที่ทำให้หน้าดูหมองหรือซีด

หากลองแล้วรู้สึกว่าใบหน้าดูสว่าง ผิวดูมีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ นั่นแหละคือ “สีที่ใช่” สำหรับคุณค่ะ

การเลือกสีเดรสผ้าไหมให้เหมาะกับผิวไม่ใช่เรื่องยาก แค่รู้จักโทนสีผิวตัวเอง ใช้เทคนิคสีตัดผิว เลือกสีที่ขับแสงของผ้าไหม และไม่ลืมทดลองกับแสงจริง ก็ช่วยให้คุณดูดีได้ในทุกโอกาส

ผ้าไหมไม่ใช่แค่ผ้าสำหรับใส่ออกงาน แต่สามารถเป็น “เดรสตัวโปรด” ที่ช่วยเสริมความมั่นใจของคุณได้อย่างลงตัว ขอแค่เลือก “สีที่ใช่” คุณก็พร้อมเปล่งประกายได้ในทุกครั้งที่สวมใส่

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับแฟชั่น ได้ที่นี่ Fashion